Key Takeaways

• Flash Manufacturing PMI มีแนวโน้มที่จะลดลง
• Flash Services PMI มีแนวโน้มที่จะลดลง
• Durable Goods Orders MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น

WEEKLY TONE: MONITOR WEEK

  ในสัปดาห์นี้ ตัวชี้วัดส่วนใหญ่ยังแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งภาคการผลิตและภาคแรงงาน ในฝั่งของสินทรัพย์ดิจิทัล ตอนนี้การเข้าทำธุรกรรมในกลยุทธ์ที่มี Bitcoin สามารถเริ่มทำได้ เนื่องด้วยข้อมูลในหลากหลายส่วนที่ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ Bitcoin และความเป็นไปได้ในการเติบโตในปีนี้

Important Economic Data this week :

1. Flash Manufacturing PMI

  Flash Manufacturing PMI (Purchasing Managers' Index) คือดัชนีการจัดการผลิตเบื้องต้น ที่เผยแพร่ก่อนรายงานหลักเพื่อให้สังเกตเห็นแนวโน้มทันทีก่อนการเผยแพร่ของข้อมูลหลักในท้ายเดือน โดยดัชนีที่ใช้วัดระดับของกิจกรรมการผลิตในส่วนการผลิตของประเทศสหรัฐอเมริกา ดัชนีนี้ถูกสร้างขึ้นโดย IHS Markit ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับของกิจกรรมการผลิตโดยสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการผลิตในธุรกิจ โดยค่า PMI ที่มากกว่า 50 จะแสดงถึงการขยายของกิจกรรมการผลิต ค่าที่ต่ำกว่า 50 จะแสดงถึงการย่อลงของกิจกรรมการผลิต

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Flash Manufacturing PMI มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 50.2 เป็น 49.5

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การคาดการณ์การลดตัวลงของ Flash Manufacturing PMI แสดงให้เห็นถึงการหดตัวลงของภาคการผลิต และด้วยการที่มีการคาดการณ์ว่าจะตัวชี้วัดจะออกมาและต่ำกว่า 50 ถือว่าภาคการผลิตนั้นหดตัวลงอย่างชัดเจน

2. Flash Services PMI

  Flash Services PMI (Purchasing Managers' Index) ดัชนีการจัดการบริการเบื้องต้น ที่เผยแพร่ก่อนรายงานหลักเพื่อให้สังเกตเห็นแนวโน้มทันทีก่อนการเผยแพร่ของข้อมูลหลักในท้ายเดือน โดยดัชนีที่ใช้วัดระดับของกิจกรรมในส่วนการบริการของประเทศสหรัฐอเมริกา ดัชนีนี้ถูกสร้างขึ้นโดย IHS Markit ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับของกิจกรรมการบริการโดยสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการบริการ โดยค่า PMI ที่มากกว่า 50 จะแสดงถึงการขยายของกิจกรรมการบริการ ค่าที่ต่ำกว่า 50 จะแสดงถึงการย่อลงของกิจกรรมการบริการ

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Flash Services PMI มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 54.4 เป็น 52

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การคาดการณ์การลดลงของ Flash Services PMI แสดงให้เห็นถึงการหดตัวลงของภาคการบริการ แต่ด้วยมีการคาดการณ์ว่าตัวชี้วัดนี้จะมีค่ามากกว่า 50 เป็นหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงการชะลอตัวลงอย่างช้า ๆ ของภาคการผลิต

3. Durable Goods Orders MoM

  Durable Goods Orders คือยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เป็นดัชนีชี้วัดถึงกิจกรรมการผลิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะเป็นตัววัดปริมาณของการสั่งสินค้า การส่งสินค้าโดยจะเป็นตัววัดถึงภาคการผลิตซึ่งหากว่าเศรษฐกิจมีปัญหาจะส่งผลให้ปริมาณการสั่งสินค้าลดลง

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Durable Goods Orders MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0.9% เป็น 1.2%

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  แม้ว่าการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Durable Goods Orders จะแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจโดยรวมที่ขยายตัว แต่ดัชนีนี้ไม่ได้ส่งผลต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยตรง ผลกระทบจากดัชนีนี้จึงถือว่าน้อยต่อสินทรัพย์ดิจิทัล

Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล

 

23 เมษายน

• รายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ

Weekly Crypto Must Watch

  ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้ยังค่อนข้างต่ำ หลายเหรียญมี Funding rate ติดลบ หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์มีนโยบายชะลอการตัดสินใจขึ้นภาษี นักลงทุนจึงเริ่มเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น

  ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังนักลงทุนเริ่มการเปิดรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน ส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดมากขึ้นขณะเดียวกันตลาดก็เริ่มฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ก่อนหน้า

  ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิที่ 13.7 ล้านเหรียญซึ่งนับเป็นสัปดาห์ที่มีเงินไหลเข้าค่อนข้างน้อย หลังนักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเลื่อนแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปอีก 90 วัน ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มกลับมาให้ความสนใจกับสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง

  ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลออกสุทธิที่ 32.3 ล้านเหรียญยังคงเป็นอีกสัปดาห์ที่ไม่มีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดและมีเงินไหลออกจำนวนมาก หลังจากที่นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจไปที่ Bitcoin เป็นหลัก ส่งผลให้ Ethereum ค่อยๆ หลุดกระแสความนิยม และ ภายใน ecosystem ของ Ethereum ก็เผชิญกับการปรับฐานครั้งสำคัญ

Stablecoin เปลี่ยนมือ USDC โต สะท้อนความได้เปรียบด้านกฎระเบียบ

  อุปทาน USDC เพิ่มขึ้นแตะเกือบ 61 พันล้านดอลลาร์ จาก 44 พันล้านเมื่อต้นปี เติบโต 38.6% ขณะที่ Stablecoin โดยรวมอยู่ที่ 226 พันล้านดอลลาร์ ส่วน USDT เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 138 เป็น 145 พันล้านดอลลาร์ โดย Ethereum ยังคงเป็นบล็อกเชนหลักของ Stablecoin ด้วยอุปทาน 130 พันล้านดอลลาร์ ที่เหลือกระจายบน TRON, Solana และอื่นๆ การเติบโตของ USDC สะท้อนความได้เปรียบด้านกฎระเบียบ และความเชื่อมั่นจากสถาบัน โดยเฉพาะเมื่อ Circle เดินหน้าแผน IPO

  Circle มีความโปร่งใสเรื่องทุนสำรอง ทำให้ USDC เป็นตัวเลือกของสถาบันในสหรัฐฯ และยุโรป การเติบโตที่เร็วของ USDC เทียบกับ USDT ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาด แม้ USDT จะยังใหญ่สุด แต่แนวโน้มการใช้งานเริ่มเอนมาทาง USDC มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่ภายใต้กำกับดูแล

  แม้ Stablecoin จะยังเติบโตในแง่ของมูลค่ารวม แต่เมื่อพิจารณาจากอัตราการเปลี่ยนแปลง (Net Position Change) ที่ลดลงในช่วงหลัง จะเห็นได้ว่าแรงขับเคลื่อนจากความต้องการเริ่มอ่อนแรงลง โดยนักลงทุนอาจรอดูทิศทางใหม่ของตลาดก่อนที่จะเพิ่มทุนผ่าน Stablecoin

BTC/USDT

  $BTC มีลุ้นที่จะทำ Double-Bottom หากราคานั้นสามารถกลับไปยืนเหนือ $87,000 ได้ จะเป็น Momentum การขึ้นของ $BTC ที่ดีและทำให้ราคามีโอกาสขึ้นต่อได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามในระยะสั้นยังต้องเฝ้าระวังบริเวณกรอบแนวต้านต่างๆ เพราะอาจมีการย่อตัวที่รุนแรงเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ นอกจากนี้หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ $87,000 ได้ก็มีโอกาสที่จะ Sideway ออกไปก่อนได้เช่นกัน

แนวต้าน : $87,700 | $92,000 | $100,000

แนวรับ : $78,000 | $74,000 | $67,000

ETH/USDT

  $ETH ยังคงเคลื่อนที่ Sideway อยู่ในกรอบขาลงในปัจจุบัน การที่ราคานั้นไม่ลงไปต่ำกว่าบริเวณ $1,550 นั้นจะเป็นมุมมองที่ดีของ $ETH เพราะจะทำให้มีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง โดยแนวต้านที่จะช่วยยืนยันตรงนี้ได้คือบริเวณ $2,100 ที่จะสร้าง Momentum การขึ้นที่ดีมากๆ อย่างไรก็ตามในระยะสั้นนี้ยังต้องระมัดระวังแนวต้านกรอบขาลงอยู่เพราะอาจมีการย่อตัวในบริเวณดังกล่าวได้

แนวต้าน : $1,670 | $1,780 | $2,100

แนวรับ : $1,540 | $1,380 | $1,200

  Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้และสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังไม่สู้ดีนัก จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีและมี Marketcap ที่ใหญ่ และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง