Key Takeaways

• JOLTs Job Opening มีแนวโน้มที่จะลดลง
• Core PCE Price Index MoM มีแนวโน้มที่จะลดลง
• Non Farm Payrolls มีแนวโน้มที่จะลดลง
• Unemployment Rate มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิม

WEEKLY TONE: BUY WEEK

  ในสัปดาห์นี้ ตัวชี้วัดสำคัญอย่าง Core PCE มีแนวโน้มที่จะลดลง อีกทั้งปัจจัยในฝั่งของภาพรวมการขึ้นกำแพงภาษียังมีการชะลอตัวไปอีก 90 วัน ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงที่มีความผันผวนสูงอย่างสินทรัพย์ดิจิทัลเหมาะสำหรับการเปิดความเสี่ยงในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี Market Cap ใหญ่ๆ และในส่วนของสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Altcoins สามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่ต้องเลือกราคาของสินทรัพย์และช่วงเวลาก่อนการทำธุรกรรม

Important Economic Data this week :

1. JOLTs Job Opening

  ตัวเลขการสำรวจการจ้างงานทุกตำแหน่ง (ที่ยังว่างอยู่) ในทุกวันสุดท้ายของเดือน เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจ "Job Openings and Labor Turnover Survey (JOLTS)" การสำรวจนี้จะรวบรวมข้อมูลจาก 16,400 หน่วยงานนอกภาคเกษตรกรรม ซึ่งรวมถึงร้านค้า และ โรงงาน รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลระดับกลาง ภาครัฐ และท้องถิ่นใน 50 รัฐ และ ดิสทริคต์ออฟคอลัมเบีย

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: JOLTs Job Opening มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 7.568M เป็น 7.4M

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การคาดการณ์การลดตัวลงของ JOLTs Job Opening แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งงานที่เปิดรับนั้นน้อยลง แต่ด้วยการที่มีการคาดการณ์ลดลงไม่เยอะมาก ทำให้ยังไม่มีผลอย่างเป็นนัยสำคัญต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

2. Core PCE Price Index MoM

  United States Core PCE Price Index (Personal Consumption Expenditures Price Index) คือดัชนีราคาที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาของสินค้าและบริการที่บรรจุในการบริโภคของประชากรในสหรัฐอเมริกา โดยไม่รวมราคาของอสังหาริมทรัพย์ และค่าประกันสุขภาพ และราคาของสินค้า และบริการที่เป็นผลมาจากราคาของพลังงาน และอาหารที่มีความผันผวนมาก

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core PCE Price Index MoM มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 0.4% เป็น 0.1%

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การคาดการณ์การลดลงของ Core PCE Price Index MoM แสดงให้เห็นถึงอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มที่ว่าจะลดน้อยลง และเอื้อต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED การลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ฝั่งของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้รับผลประโยชน์มากกว่าตลาดการลงทุนอื่น ๆ

3. Non Farm Payrolls

  Durable Goods Orders คือยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เป็นดัชนีชี้วัดถึงกิจกรรมการผลิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะเป็นตัววัดปริมาณของการสั่งสินค้า การส่งสินค้าโดยจะเป็นตัววัดถึงภาคการผลิตซึ่งหากว่าเศรษฐกิจมีปัญหาจะส่งผลให้ปริมาณการสั่งสินค้าลดลง

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Non Farm Payrolls มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 228K เป็น 140K

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การคาดการณ์การลดตัวลงของ Non Farm Payrolls แสดงให้เห็นถึงการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ลดตัวน้อยลง และยังส่งผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง นักลงทุนอาจหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยแทน

Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล

 

30 เมษายน

• ประกาศดอกเบี้ย BOJ
• ETH Pectra Upgrade

Weekly Crypto Must Watch

  ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้ยังคงตัวเป็นบวก และถือว่าอยู่ในระดับปกติ บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด โดยมีการเปิดสถานะลองมากกว่าสถานะชอร์ต แต่ไม่ได้มีความร้อนแรงมากจนเกินไป แสดงถึงช่องว่างของ Upside ที่ยังคงมีอยู่

  ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest มีการปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูง แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงสูงอยู่ และมีการเปิดความเสี่ยงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับ Sentiment ของตลาดที่ฟื้นตัวขึ้นมาในสัปดาห์ที่แล้ว ถึงแม้จะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความ Bullish แต่ก็แสดงถึงปริมาณการใช้ Leverage ในตลาดที่สูงขึ้นด้วย

  ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิที่ 3,062.9 ล้านเหรียญซึ่งนับเป็นสัปดาห์ที่มีเงินไหลเข้าค่อนข้างมาก หลังนักลงทุน และสถาบันเริ่มกลับมาเปิดความเสี่ยงกันมากขึ้น หนุนให้ราคา Bitcoin ทะยานสู่ 90K และนักลงทุนรายย่อยเริ่มกลับเข้ามาเปิด Position กันมากขึ้น ส่งผลให้ค่าของ MVRV อยู่ที่ 1.4 ซึ่งอยู่ในระดับที่ดี

  ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิที่ 157.1 ล้านเหรียญซึ่งนับเป็นสัปดาห์ที่มีเงินไหลเข้าค่อนข้างมากหลังจากมี Outflows มาทั้งเดือน หลังจากที่นักลงทุนเริ่มเปิดความเสี่ยงกันมากขึ้น จึงเลยดันราคาของ Ethereum ขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ Ethereum ยังคงเป็นหนึ่งใน Sector ที่ขึ้นค่อนข้างที่จะน้อยเมื่อเทียบกับ Sector อื่น

Long-term Holders กลับมาอีกครั้ง: บทบาทสำคัญในวัฏจักร Bitcoin รอบนี้

  กลุ่มผู้ถือระยะยาว (Long-term holders) ได้กลับเข้ามาเป็นฝ่ายซื้อในตลาดอีกครั้ง โดยปัจจุบัน พวกเขาถือครอง Bitcoin อยู่ที่ 69% ของอุปทานทั้งหมดโดยข้อมูล ระบุว่า

• ในช่วงจุดสูงสุดของตลาดกระทิงปี 2017 สัดส่วนการถือครองโดยผู้ถือระยะยาวอยู่ที่ 51.6%
• ในช่วงจุดต่ำสุดของตลาดหมีปี 2018 สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 67.3%
• ในช่วงจุดสูงสุดของตลาดกระทิงปี 2021 สัดส่วนการถือครองโดยผู้ถือระยะยาวอยู่ที่ 69% (จุดสูงสุดที่สอง) ขณะที่ในจุดสูงสุดแรกอยู่ที่ 58.9%
• ในช่วงจุดต่ำสุดของตลาดหมีปี 2022 สัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 69.5%
• ในจุดสูงสุดของเดือนธันวาคม 2024 สัดส่วนการถือครองโดยผู้ถือระยะยาวอยู่ที่ 67.3%

  การที่ผู้ถือระยะยาวมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นกำลังสร้างฐานรองรับที่แข็งแกร่งให้กับตลาด อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าข้อมูลนี้อาจมีผลกระทบของการซื้อขายผ่าน ETF ซึ่งมีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากเข้ามาซื้อ Bitcoin ผ่านกองทุนเหล่านี้

  ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ถือระยะสั้น (Short-term holders) ได้ขายเหรียญของพวกเขาไปยังLong-term holders เราจะเห็นได้ว่าอัตราส่วนนี้ดูเหมือนจะลงไปถึงจุดต่ำสุดในช่วงที่ราคาทำจุดสูงสุดรอบล่าสุดในเดือนธันวาคม/มกราคม ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ากังวล เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว มักเป็นสัญญาณบอกว่า Cycle มีโอกาศ ใกล้จบ เช่นที่เคยเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2017, เมษายน 2021, มีนาคม 2024 และธันวาคม 2024

  อย่างไรก็ตาม ใน Cycle ก่อนหน้า รูปแบบ Double Top ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของผู้ถือระยะยาว กล่าวคือ อัตราส่วนนี้ลงไปถึงจุดต่ำสุดในจุดสูงสุดแรกช่วงมีนาคม (บ่งชี้ว่าผู้ถือระยะสั้นเป็นฝ่ายขับเคลื่อนราคา) และขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่สองในเดือนพฤศจิกายน 2021 (ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนโดยผู้ถือระยะยาว) ดังนั้น เป็นไปได้ ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงที่คล้ายกันอีกครั้ง ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง การเคลื่อนไหวขาขึ้นที่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจมีโอกาสน้อยลง แต่ก็ยังอาจเห็นการขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในช่วงราคาประมาณ $110,000–130,000 ได้

BTC/USDT

  $BTC มีการพักตัวเล็กน้อยหลังจากปรับตัวขึ้นมารุนแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา Momentum ของราคาโดยรวมยังเป็นขาขึ้น ในระยะสั้นอาจจะได้เห็นการย่อตัวได้ก่อนที่จะขึ้นต่อไป แนวรับสำคัญในบริเวณนี้อยู่ที่ $88,000 ซึ่งเป็นแนวรับตาม Fibonacci หากราคานั้นสามารถปรับตัวเกิน $95,000 ไปได้ ก็มีแนวโน้มที่จะขึ้นไปถึง $97,000 หรือ $100,000 ได้ อย่างไรก็ตามยังต้องระมัดระวังการผันผวนของตลาดอยู่เสมอ

แนวต้าน : $97,000 | $100,000 | $108,000

แนวรับ : $93,000 | $88,000 | $83,000

ETH/USDT

  $ETH ได้ออกมาจากกรอบขาลงแล้ว และ Sideway อยู่บริเวณ $1,800 โดยการ Breakout ได้สร้าง Momentum ในการกลับตัวที่ดีให้กับ ETH ในระยะสั้นหากราคาสามารถทำ Local High สูงกว่า $1,850 ได้จะทำให้ ETH มีแนวโน้มในการขึ้นต่อได้ อย่างไรก็ตามหากทำไม่ได้ในระยะสั้นแล้วราคาอาจจะ Sideway ออกไปก่อนได้ในระยะสั้นข้างหน้านี้

แนวต้าน : $1,850 | $2,100 | $2,400

แนวรับ : $1,550 | $1,380 | $1,200

  Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้และสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังไม่สู้ดีนัก จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีและมี Marketcap ที่ใหญ่ และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง